[การลงทุน] รู้ทันแชร์ลูกโซ่ด้วยความรู้ด้านการลงทุน

ช่วงนี้คงไม่มีแชร์ลูกโซ่ไหนดังกระหึ่มทั่วอินเทอร์เน็ตในไทยแรงยิ่งกว่า U-Fun อีกแล้ว กับยอดความเสียหายคิดเป็นตัวเงินนับพันล้าน ด้วยวิธีการหลอกลวงรูปแบบเดิมๆ ไหนๆก็เป็นข่าวดังแล้ว เอามาเป็นตัวอย่างดีกว่า

แชร์ลูกโซ่ไม่ใช่ของใหม่ มีมานานมากแล้ว ในอดีตแชร์ที่ดังๆคงหนีไม่พ้นแชร์แม่ชม้อย แชร์น้ำมันอันโด่งดังในอดีต ซึ่งข้อมูลทั้งหลายสามารถอ่านได้ที่ th.wikipedia.org/wiki/คดีแชร์ชม้อย
ที่น่าแปลกใจกว่าคือ วิธีการโกงเงินจากประชาชนนั้นหากพิจารณาดีๆจะพบว่า มาในรูปแบบเดียวกันทั้งสิ้น

ใครที่ตามอ่านบทความด้านการลงทุนของผม ผมมักจะเน้นที่ระบบความคิดและความเชื่อเสมอ ผมมักจะเน้นเรื่อง Performance ของบริษัทหรือหลักทรัพย์ที่เข้าไปลงทุน ซึ่งต้องสมเหตุสมผลตามความเป็นจริง ทีนี้เรามาดูกันว่าอะไรทำให้ U-Fun ดูไม่สมเหตุสมผล


1.ผลตอบแทนต่อเดือน สูงมาก!
ผมเองก็จำไม่ได้ว่าทางนั้นโฆษณาไว้เดือนละกี่เปอร์เซ็น คาดว่าประมาณ 6% ต่อเดือนถ้าผมจำไม่ผิด ยังไงก็ตาม ลองคิดดูครับว่าบริษัทต้องทำกำไรเดือนนึงมากขนาดไหนเพื่อให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 6% ต่อเดือนหรือกว่า 72% ต่อปี อย่าลืมนะครับว่าหุ้นนั้นคิดผลตอบแทน ต่อปี ไม่ใช่ต่อเดือน 
หลายๆครั้งผู้ชักชวนมักจะบอกว่าเป็นการ ระดมทุน ซึ่งผมเองสงสัยตรงที่ ทำไมบริษัทต้องระดมทุนมากมายมหาศาลจากรายย่อย ทั้งๆที่หากบริษัทดีจริง มีแผนชัดเจนและผลิตภัณฑ์ดีอย่างที่โฆษณากัน บริษํทสามารถยื่นกู้ธนาคารเลยก็ได้ อย่าลืมนะครับว่าการจ่ายผมตอบแทนก็เหมือนจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ มันเป็นต้นทุนอย่างหนึ่ง
ทำไมถึงไม่กู้ธนาคารทั้งๆที่ดอกเบี้ยเงินกู้บางทีสูงไม่ถึงปีละ 10% ทำไมเลือกระดมทุนและจ่ายดอกถึง 72% 



2.อ้างว่า U-Token ราคาไม่มีวันลง
U-Token เป็นหน่วยเงินดิจิตอลที่กลุ่ม U-Fun นิยามขึ้นมา โดยพยายามอ้างว่าเป็นเหมือน Bitcoin ซึ่งความจริงไม่ใช่เลย

Bitcoin นั้นถูกกำหนดปริมาณสูงสุดที่มีได้ในระบบมาตั้งแต่ออกแบบแล้วครับ ซึ่งนั่นหมายความว่ามันเป็นสิ่งที่มีจำกัดเหมือนทองคำจริงในโลก ตามหลักแล้วราคามันจะวิ่งตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นในขณะที่ตัว Bitcoin มีเท่าเดิม

แต่ U-Token ไม่ใช่เลยครับ ไม่มีหลักทรัพย์ใดในโลกที่การันตีได้ว่าราคาจะขึ้นเสมอ ขึ้นอย่างเดียว ขึ้นไม่หยุด แม้แต่ Bitcoin หรือทองคำเองก็ทำไม่ได้ครับ ยิ่งหน่วยเงินที่ไม่มีหลักใดๆมารองรับ สามารถแก้เลขเพิ่มได้ตามใจผู้บริหาร มันยิ่งเป็นไปไม่ได้ครับ (Bitcoin ถูกออกแบบมาให้แก้ให้มีมากขึ้นไม่ได้ครับ เพราะข้อมูลจะ invalid และไม่สามารถใช้ได้หากมีการแก้ไข)


3.ไม่มี Product ที่เป็นจุดเด่นหรือจุดขายของบริษัท
บริษัทเสกเงินไม่ได้นะครับ สืบเนื่องจากผลตอบแทนสูงที่ผมอธิบายไปในข้อ 1 แล้ว นั่นหมายความว่าสินค้าหรือบริการใดๆที่บริษัทเป็นผู้ขายต้องมี Performance สูงมากๆ แต่มันคงแปลกมากที่สินค้าที่ทำกำไรได้มหาศาลขนาดนั้น กลับไม่มีวางขายอยู่ตามห้างร้าน ขนาดตัวบริษัทยังไม่โปรโมทสินค้าตัวเองเลย!
ไม่มีสินค้าหรือบริการที่ Performance สูง แล้วเอาเงินที่ไหนมาจ่ายเป็นผลตอบแทน ?


แค่ 3 ข้อก็รู้แกวพวกแชร์ลูกโซ่แล้วครับ ทั้งนี้ทุกท่านควรหาความรู้ทางการเงินการลงทุนเพิ่มเติมอยู่ตลอดด้วยนะครับ เนื่องจากแชร์ลูกโซ่ใหม่ๆมักใช้ศัพท์ด้านการลงทุนซึ่งเป็นศัพท์เฉพาะมาปิดบังและหลอกลวงครับ

Comments

Popular posts from this blog

การลืมตระหนักถึง "ความเสี่ยง"

โปรเจคจบกับโอกาสเติบโตสู่ Fintech Startup

ยุคสมัยแห่ง Robot