Posts

Showing posts from May, 2015

อีกด้านหนึ่งของดอกเบี้ยเงินกู้

เรื่องหนี้สินแม้จะเป็นอะไรที่คนเราพยายามหลีกเลี่ยง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันใกล้ตัวเราเหลือเกิน ทั้งซื้อรถ ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ส่วนใหญ่ก็คงกู้เอาทั้งนั้น หรือเอาใกล้ตัวอีกหน่อยก็บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อต่างๆ สิ่งที่ตามมาคงไม่พ้น "ดอกเบี้ย" นั่นเอง เป็นที่รู้กันว่าดอกเบี้ยเงินกู้โดยเฉพาะพวกสินเชื่อส่วนบุคคลนั้น หนี้โหดขนาดไหน ขนาดเอาบัตรเครดิตกดเงินสดยังโดนดอกเบี้ยสูงลิ่วเลย กับคนที่วินัยการเงินเป๊ะๆวางแผนดีๆคงไม่เจอปัญหาอะไร แต่กับคนที่ไม่มีวินัย ใช้จ่ายเกินตัว อันนี้หายนะแน่ๆ สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นมักเป็นการบ่นลงโซเชียลว่าเจอดอกเบี้ยมหาโหด หรือบางคนด่าแบงค์หน้าเลือด รังแกคนจนกันเลยทีเดียว ผมว่าสิ่งที่ควรถามไม่ใช่ "เก็บโหดไปมั้ย" แต่เป็น "ทำไมถึงต้องเก็บขนาดนี้" มากกว่า นักลงทุนทุกท่านทั้งมือใหม่ มือเก่า มือโปร มือสมัครเล่น ย่อมรู้ว่าผลตอบแทนนั้นแปรผันตามความเสี่ยง อะไรก็ตามที่ผลตอบแทนมากๆย่อมมีความเสี่ยงสูง ซึ่งผลตอบแทนอาจมาในรูปเงินปันผล ราคาหลักทรัพย์ และดอกเบี้ย เมื่อดอกเบี้ยถูกนับเป็นรูปแบบหนึ่งของผลตอบแทน ดอกเบี้ยเงินกู้ต่างๆก็เช่นกัน แต่

[การลงทุน] กับดักของ Passive Income

หายไปนานต้องขออภัย เนื่องจากมรสุมโปรเจค + ไฟนอลมหาลัยดันมาอยู่ช่วงเดียวกัน หลายท่านคงจินตนาการออกว่าโหดร้ายเพียงใด แม้จะยังอยู่ในช่วงไฟนอล แต่ก็อยากเขียนอะ ฉะนั้น ช่างหัวมันไปก่อน เขียนบทความไม่กินเวลาขนาดนั้นหรอก ฮ่าๆๆๆ เชื่อว่าคนวัยทำงานทุกคนต้องเคยได้ยินคำว่า Passive Income หลายคนอาจจะผ่านมันมาแล้ว สำเร็จแล้วหรือล้มเหลวมาแล้วก็ตาม แต่เชื่อว่าทุกคนรู้ ขนาดนักศึกษายังรู้เลยครับ แม้แต่มิจฉาชีพก็ชอบอ้างคำนี้ ฉะนั้นทุกคนคงเคยได้ยินผ่านหูมาบ้างแหละ Passive Income มักมาคู่กับวลีที่ว่า "ให้เงินทำงาน" โดยทั่วไปคนมักเข้าใจว่าแค่เอาเงินไปกองไว้ซักที่(ลงทุน)แล้วก็ปล่อยลืมมันไป นั่งกระดิกเท้ารอรับเงินปันผลหรือผลตอบแทนในรูปแบบต่างๆโดยไม่ต้องไปลงแรงลงสมองอะไร ซึ่งขอบอกเลยว่าความคิดนี้ ผิดอย่างแรง!!! สาเหตุที่คนเราเข้าใจผิดได้ขนาดนั้น ผมคิดว่าเป็นเรื่องคำนิยามของคำว่า "การทำงาน" มากกว่า ส่วนใหญ่คนเรามักเข้าใจว่าการทำงานคือการเข้าออฟฟิศตรงเวลา นั่งทำงานวันละ 8 ชั่วโมงหรือมากกว่า มีกรอบเวลาการทำงานและตำแหน่งหน้าที่ แต่โดยส่วนตัวผมแล้วการทำงานโดยทั่วไปกับการทำงานที่ให้ Passiv