Posts

Showing posts with the label เศรษฐกิจ

ความผันผวนของหุ้นกับพฤติกรรมนักลงทุน

Image
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คนไทยทุกคนรับรู้ถึงการสูญเสียครั้งสำคัญของชาติ นั่นคือการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9 ช่วงเวลาดังกล่าวตลาดหุ้นมีความผันผวนรุนแรงมาก ซึ่งหากใครเปิดตลาดดูคงได้เห็นปรากฎการณ์หุ้นแดงทั้งตลาด ภาพจาก SetSmart อาจเรียกได้ว่าความผันผวนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นบททดสอบนักลงทุนโดยแท้ โดยเฉพาะนักลงทุนสาย VI ที่มีความตั้งใจในการลงทุนระยะยาว โดยส่วนตัวแล้ว ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่ผมงานยุ่งมากจนไม่ได้เปิดตลาดหลายวันติดต่อกัน จากกราฟที่ออกมา ผมเชื่อว่าในตลาดเวลานั้นมีทั้ง "คนกลัว" และ "คนกล้า" โดยคนที่กลัวจนรีบขายหุ้นอาจเสียหายไปมากมาย ในขณะที่คนกล้าซื้ออาจกำไรมหาศาลในช่วงเวลาผันผวนที่ผ่านมา คำถามคือ ความผันผวนที่ผ่านมาส่งผลต่อความสามารถในการประกอบกิจการของบริษัทจดทะเบียนหรือไม่ ผมเชื่อว่ามีผลบ้าง แต่ไม่ใช่ระยะยาว และไม่ใช่ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมแน่ จริงอยู่ที่บางอุตสาหกรรมอย่าง media อาจมีผลกระทบไปบ้างในช่วงสั้นๆนี้ หรืออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอาจมีผลบ้างจากบรรยากาศที่เปลี่ยนไปแบบกระทันหัน แต่ผมก็เชื่อว่านี่ไม่ใช่ผลกระ

เมื่อการตัดสินใจผิดเพี้ยนไปเพราะ Information Overload

Image
ความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งในบรรดาเทคโนโลยีที่มนุษย์พัฒนาขึ้นคือ มันทำให้เราเปลี่ยนโลกธุรกิจที่เดิมเราแทบไม่รู้อะไรเลยให้กลายเป็นโลกที่เรารู้มันทุกสิ่งอย่างจนมากเกินไป ในเวลาแค่ประมาณ 20 ปี ยุคสมัยนี้มีคำกล่าวที่ว่า ข้อมูลเปรียบเสมือนบ่อน้ำมัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของข้อมูลที่เดิมพวกเราคิดว่ามันไม่มีค่า มันสร้างความได้เปรียบมากมายในโลกธุรกิจสำหรับคนที่เห็นค่ามันและไม่ตกอยู่ในด้านมืดของมัน หากการรู้ข้อมูลมากมายสร้างโอกาสและมุมมองให้กับธุรกิจเป็นด้านสว่าง อีกด้านหนึ่งซึ่งเป็นด้านมืดของมันคงเป็นการรับข้อมูลมากๆและจัดการไม่ได้จนมันส่งผลต่อการตัดสินใจทางธุรกิจ ตัวอย่างของ Information Overload แบบใกล้ตัวผม ก็เป็นเรื่องธุรกิจอพาร์ทเมนต์ที่ครอบครัวผมทำนี่แหละครับ หากจำปี 54 ที่น้ำท่วมได้ หลายๆคนคงจำได้ว่ามีเหตุการณ์ย้ายฐานการผลิตหลายโรงงานเป็นจำนวนมาก หลายๆที่ถึงกับเลิกกิจการเลยก็มี ซึ่งกิจการทางบ้านของผม ได้รับผลกระทบจาก Demand ที่ลดลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ ในความคิดผม นี่คือจุดเริ่มต้นของปัญหาครับ ครอบครัวผมค่อนข้างเฉื่อยมากในการตัดสินใจทางธุรกิจ คนที่มีอำนาจซึ่งเป็นคุณอา บอ

ช่องว่างของคอนโดและอพาร์ทเมนต์

ใครที่อยู่ในเขตตัวเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งกรุงเทพ ปริมณฑล และจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ คงจะได้เห็นคอนโดมากมายผุดขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ซึ่งผมเริ่มรู้สึกว่า ช่องว่างที่เป็นจุดแตกต่างระหว่างคอนโดกับอพาร์ทเมนต์มันเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ ในอดีตการตัดสินใจเลือกว่าจะผ่อนซื้อคอนโดหรือเช่าอพาร์ทเมนต์นั้น ผมว่ามันต่างกันมากอย่างมีนัยยะเลยทีเดียว ทั้งเรื่องการตกแต่ง ขนาดห้อง ระบบพื้นฐานต่างๆ ซึ่งคอนโดล้วนแล้วเหนือกว่าทั้งสิ้น การตัดสินใจเลือกในกรณีที่ต้องอยู่ในพื้นที่นั้นหลายปี แทบจะตัดสินกันที่ Budget ในกระเป๋ากับความต้องการส่วนตัวล้วนๆ สิ่งหนึ่งที่ผมหวั่นใจในเวลานี้คือ การที่คอนโดระดับล่างเริ่มทำห้องเหมือนอพาร์ทเมนต์ และสร้างในจำนวนมากๆใน 1 โครงการ บางที่ขึ้นอาคารใหม่เป็นสิบอาคารซึ่งแทบทั้งโครงการเป็นห้องราคาถูกจับตลาดระดับล่างทั้งสิ้น ขนาดห้องบางโครงการเล็กกว่าอพาร์ทเมนต์บางที่ด้วยซ้ำ และด้วยปริมาณห้องที่สร้างมาจำนวนมากๆ ทำให้ผมเริ่มรู้สึกว่ามันกำลังจะ Over supply (หรือมัน Over ไปแล้วก็ไม่อาจทราบได้) ตอนนี้เลยเป็นช่วงเวลาที่อพาร์ทเมนต์พยายามอัพเกรดตัวเองให้ดีขึ้นเพื่ออัพราคาค่าเช่า ในขณ

ค่าเสียโอกาสกับการขาดทุน

เชื่อไหมครับ บางครั้งคนเราก็หน้ามืดกดเทรดหุ้นไปอย่างวู่วามและไร้เหตุผลที่ดีมารองรับ เพียงเพราะการคิดย้ำซ้ำไปมาในเรื่องของ "ค่าเสียโอกาส" สำหรับคนที่ไม่คุ้นนะครับ ค่าเสียโอกาสไม่ได้หมายถึงค่าใช้จ่ายที่เราเสียเงินหรือทรัพย์สินไปจริงๆ แต่หมายถึงโอกาสใดๆที่ผ่านเข้ามาแล้วเราไม่ได้คว้ามันเอาไว้ โดยปกติผมคิดว่ามันเป็น "ความรู้สึกเสียดาย" ซะมากกว่า จึงไม่แปลกนักที่ความรู้สึกเสียดายที่เรียกเป็นทางการว่าค่าเสียโอกาสนี้ จะส่งผลค่อนข้างมากต่อการตัดสินใจซื้อขายหุ้นซึ่งส่วนมากมักจะพาเราติดดอยมากกว่าทำกำไร จริงอยู่ที่นักลงทุนทุกคนล้วนกลัวการขาดทุน แต่ในหลายๆคน กลับกลัวการเสียโอกาสมากกว่ากลัวขาดทุน บางครั้งพวกเขาเชื่อว่านี่เป็นโอกาสซึ่งถ้าไม่คว้าไว้ก็อาจจะไม่ได้เห็นโอกาสแบบนี้อีกนาน โดยส่วนมากความเข้าใจแบบนี้มักจะเกิดจากการหลงชอบหุ้นตัวนั้นๆ โดนเชียร์จากโบรคเกอร์ โดนเป่าหูไม่ว่าจะจากบทวิเคราะห์หรือคนรอบตัว บางครั้งอาจมาจากโพยผีบอกตามห้องไลน์หรือในอินเทอร์เน็ตด้วยซ้ำ ส่งผลให้พวกเขามักจะขาดทุนจากการเทรดเพราะโดนความอยากและความเสียดายบังตา ถ้าคุณคิดว่าหุ้น A จะโตต่อ วิธีหนึ่

[การลงทุน] รู้ทันแชร์ลูกโซ่ด้วยความรู้ด้านการลงทุน

ช่วงนี้คงไม่มีแชร์ลูกโซ่ไหนดังกระหึ่มทั่วอินเทอร์เน็ตในไทยแรงยิ่งกว่า U-Fun อีกแล้ว กับยอดความเสียหายคิดเป็นตัวเงินนับพันล้าน ด้วยวิธีการหลอกลวงรูปแบบเดิมๆ ไหนๆก็เป็นข่าวดังแล้ว เอามาเป็นตัวอย่างดีกว่า แชร์ลูกโซ่ไม่ใช่ของใหม่ มีมานานมากแล้ว ในอดีตแชร์ที่ดังๆคงหนีไม่พ้นแชร์แม่ชม้อย แชร์น้ำมันอันโด่งดังในอดีต ซึ่งข้อมูลทั้งหลายสามารถอ่านได้ที่ th.wikipedia.org/wiki/คดีแชร์ชม้อย ที่น่าแปลกใจกว่าคือ วิธีการโกงเงินจากประชาชนนั้นหากพิจารณาดีๆจะพบว่า มาในรูปแบบเดียวกันทั้งสิ้น ใครที่ตามอ่านบทความด้านการลงทุนของผม ผมมักจะเน้นที่ระบบความคิดและความเชื่อเสมอ ผมมักจะเน้นเรื่อง Performance ของบริษัทหรือหลักทรัพย์ที่เข้าไปลงทุน ซึ่งต้องสมเหตุสมผลตามความเป็นจริง ทีนี้เรามาดูกันว่าอะไรทำให้ U-Fun ดูไม่สมเหตุสมผล 1. ผลตอบแทนต่อเดือน สูงมาก! ผมเองก็จำไม่ได้ว่าทางนั้นโฆษณาไว้เดือนละกี่เปอร์เซ็น คาดว่าประมาณ 6% ต่อเดือนถ้าผมจำไม่ผิด ยังไงก็ตาม ลองคิดดูครับว่าบริษัทต้องทำกำไรเดือนนึงมากขนาดไหนเพื่อให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 6% ต่อเดือนหรือกว่า 72% ต่อปี อย่าลืมนะครับว่าหุ้นนั้นคิดผลตอบแทน ต่อปี ไม่ใ

[การลงทุน] สังเกตภาวะเศรษฐกิจง่ายๆจากหน้าทีวี

บางครั้งสิ่งที่บอกใบ้เรื่องภาวะเศรษฐกิจ กลับเป็นอะไรที่ใกล้ตัวมากเกินคาด โยนทฤษฎีเศรษฐศาสตร์และตัวเลขทั้งหมดทั้งมวลทิ้งไปก่อนอ่าน เพราะบทความนี้จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านั้นเลย เชื่อว่าหลายๆคนมักดูทีวีกัน ทั้งดูข่าว ดูละคร หรือดูอะไรก็ตามแต่ที่ต้องรับสัญญาณโทรทัศน์เข้ามา เชื่อมั้ยครับ ธุรกิจบางกลุ่มแค่ดูทีวีคุณก็รู้ได้ว่ามันซบเซาหรือกำลังรุ่ง นี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่ผมสังเกตเห็นมาซักพักใหญ่ๆแล้วครับ ไม่มีใครบ้าที่ไหนอัดฉีดงบโฆษณาและการตลาดลงไปในสินค้าที่ขายดีจนผลิตไม่ทัน มาเริ่มจากเรื่องการตลาดง่ายๆกันก่อนครับ ปกติแล้วถ้าคุณจะอัดงบทำการตลาดลงไปในสินค้าหรือบริการใดๆ แน่นอน มันต้องเป็นสินค้าที่ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า หรือมีการคาดการณ์ว่ามันมี Potential ที่จะเติบโตต่อไปได้คุ้มกับงบที่เสียไป ทีนี้ลองมองกลับกัน ถ้าสินค้านั้นมันขายดีอยู่แล้ว ดีจนผลิตไม่ทัน และเป็นสินค้าที่ประมาณการณ์กันว่า Potential มันแทบจะชนเพดานแล้ว คุณจะอัดงบลงไปมั้ยครับ ด้วยหลักดังกล่าว เราเอามาสังเกตรูปแบบของโฆษณาและรายการในโทรทัศน์นะครับ โดยเฉพาะช่องที่เกี่ยวเนื่องกับการเงินการลงทุนอย่าง Money Channal จะเห