อีกด้านหนึ่งของดอกเบี้ยเงินกู้

เรื่องหนี้สินแม้จะเป็นอะไรที่คนเราพยายามหลีกเลี่ยง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันใกล้ตัวเราเหลือเกิน ทั้งซื้อรถ ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ส่วนใหญ่ก็คงกู้เอาทั้งนั้น หรือเอาใกล้ตัวอีกหน่อยก็บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อต่างๆ

สิ่งที่ตามมาคงไม่พ้น "ดอกเบี้ย" นั่นเอง

เป็นที่รู้กันว่าดอกเบี้ยเงินกู้โดยเฉพาะพวกสินเชื่อส่วนบุคคลนั้น หนี้โหดขนาดไหน ขนาดเอาบัตรเครดิตกดเงินสดยังโดนดอกเบี้ยสูงลิ่วเลย กับคนที่วินัยการเงินเป๊ะๆวางแผนดีๆคงไม่เจอปัญหาอะไร แต่กับคนที่ไม่มีวินัย ใช้จ่ายเกินตัว อันนี้หายนะแน่ๆ สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นมักเป็นการบ่นลงโซเชียลว่าเจอดอกเบี้ยมหาโหด หรือบางคนด่าแบงค์หน้าเลือด รังแกคนจนกันเลยทีเดียว ผมว่าสิ่งที่ควรถามไม่ใช่ "เก็บโหดไปมั้ย" แต่เป็น "ทำไมถึงต้องเก็บขนาดนี้" มากกว่า

นักลงทุนทุกท่านทั้งมือใหม่ มือเก่า มือโปร มือสมัครเล่น ย่อมรู้ว่าผลตอบแทนนั้นแปรผันตามความเสี่ยง อะไรก็ตามที่ผลตอบแทนมากๆย่อมมีความเสี่ยงสูง ซึ่งผลตอบแทนอาจมาในรูปเงินปันผล ราคาหลักทรัพย์ และดอกเบี้ย

เมื่อดอกเบี้ยถูกนับเป็นรูปแบบหนึ่งของผลตอบแทน ดอกเบี้ยเงินกู้ต่างๆก็เช่นกัน แต่ผลตอบแทนนี้ไม่ใช่ของเรา แต่เป็นผลตอบแทนของธนาคาร

วิเคราะห์กันต่อ ผลตอบแทนสูงความเสี่ยงย่อมสูงตาม แล้วความเสี่ยงของการที่แบงค์ปล่อยกู้คืออะไร
"การผิดนัดชำระหนี้" ไงครับ จะเรียกว่า "หนีหนี้" หรือ "ชักดาบ" ก็คงไม่ผิดนัก

การกู้เงินมันคือการเอาเงินในอนาคตมาใช้(โดยยืมคนอื่น) หากลูกหนี้ซึ่งก็คือเราๆท่านๆเบี้ยวไม่ยอมจ่าย มันเกิดความเสียหายกับผู้ปล่อยกู้ซึ่งคือแบงค์แน่นอน ยิ่งหากลูกหนี้มีปัญหาเรื่องวินัยการเงิน ยิ่งแย่ไปใหญ่ เพราะพวกนี้พร้อมจะชักดาบเจ้าหนี้ได้ตลอดเวลา พอเจ้าหนี้เร่งรัดมากๆเข้าก็มักจะมาพร้อมวลีเด็ด "รังแกคนจน"

ยืมใครมาก็ต้องใช้คืน หลักการง่ายๆที่ปัญญาชนมักจะคิดกันออก พวกหนีหนี้แล้วยกเหตุผลเข้าข้างตัวเองมาอ้าง ผมบอกตรงๆ หน้าด้าน!
ส่วนคนที่พลาดพลั้งไป วินัยขาดหรือปัญหาอะไรก็ตามแต่เข้าเจรจา ประนอมหนี้ อันนี้ผมนับถือครับ คุณมาถูกทางแล้ว

แบงค์ปล่อยกู้ เขามีความเสี่ยงอยู่แล้วครับ ผลตอบแทนความเสี่ยงของเขาคือดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามยังมีทางเจรจาหาทางออกได้ในกรณีที่คุณพลาดจริงๆ ฉะนั้น หากคุณเป็นหนี้แล้วจ่ายไม่ไหวเพราะการใช้จ่ายเกินตัว อย่าไปโทษแบงค์หรือผู้ปล่อยกู้เลย โทษตัวเองครับ เพราะมันเป็นความผิดคุณเองล้วนๆ

Comments

Popular posts from this blog

การลืมตระหนักถึง "ความเสี่ยง"

โปรเจคจบกับโอกาสเติบโตสู่ Fintech Startup

ยุคสมัยแห่ง Robot